จิบน้ำไผ่ในไร่นาสวนผสมที่สุโขทัย

         บนพื้นที่ 30 ไร่ ของ จ.ส.ท.สุทิน ทองเอ็ม หรือจ่าก้อง อายุ 39 ปี เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ประจำปี 2560 อยู่ที่ ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย  เกษตรกรต้นแบบได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙   มาปรับใช้เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในปัจจุบัน ด้วยการ ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูกลดความเสี่ยงและอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

จ่าก้อง บอกว่า ได้จัดสรรที่ดิน แบ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัย 2 ไร่ ทำนาข้าว 20 ไร่ ที่เหลือเป็นสวนผสม ปลูกผักสวนครัว ผลไม้หลากชนิด  ยังมีไผ่กิมซุง ที่นอกจากจะขายหน่อ ขายพันธุ์แล้ว  ยังได้สร้างมิติใหม่แห่งวงการไผ่ นั่นคือมีน้ำไผ่ ให้ได้ดื่มด้วย  น้ำไผ่นั้นได้มาจากต้นไผ่ อายุ 1-5 เดือน  เจาะตรงใต้ตาไผ่ 45 องศา ใช้สายยางต่อเป็นท่อลงสู่ขวด ช่วงเวลาที่เจาะคือหกโมงเย็นถึงหกโมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่จะได้น้ำไผ่เยอะ ทิ้งไว้ทั้งคืนก็จะได้น้ำไผ่บริสุทธิ์ออกมา    เบื้องต้นได้นำน้ำไผ่ไปทดสอบกับมหาวิทยาลัยนเรศวร พบว่า เป็นน้ำสะอาด ไม่มีจุลินทรีย์เจือปน  ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย สามารถดื่มได้  มีเอกสารที่ประเทศจีนบอกว่าน้ำไผ่มีโมเลกุลน้อยกว่าน้ำปกติ ทำให้ซึมเข้าร่างกายเร็วกว่าน้ำปกติ   คนจีนเชื่อว่าดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ  รสชาติเหมือนน้ำเปล่า แต่จะมีกลิ่นไผ่เบาบางลอยออกมากด้วย เวลาดื่มก็จะทำให้รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวยได้ดี  ขายขวดละ 10 บาท  ใครอยากดื่มบ้างก็ไปที่บ้านจ่าก้องได้

ภายในไร่นาสวนผสมยังมีการขุดบ่อเลี้ยงกบ ปลาดุก ปลาหมอ ปลาช่อน หอยขม ปลาบึก ปลาแรด ปลาสวาย ปลานิล ปลาทับทิม ปลาคาร์ฟ สระบัว ผักบุ้ง และยังมีการเลี้ยงห่าน นกกระทา ไก่ไข่ ไก่พันธุ์สวยงามต่างๆ เช่น ไก่ญี่ปุ่น ไก่มินิโคชิน ไก่ซิลกี้ มีการเลี้ยงปูนาในวงบ่อ กิ้งกือ ไส้เดือนไว้ผลิตปุ๋ย และเลี้ยงมดแดงบนต้นมะม่วง เป็นความยั่งยืนที่หาได้จากผืนดินเพียงไม่กี่ไร่อีกด้วย

จ่าก้องยังเชื่อว่าเกษตรกรไทยจะต้องมั่นคง มีความเป็นอยู่ที่ดีไม่น้อยหน้ากว่าอาชีพอื่นๆ เพราะได้อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องจากถิ่นฐานไปทำงานที่อื่น ได้ดูแลคนที่รัก ได้กินได้ใช้ของดีมีคุณภาพ ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ได้อยู่กับธรรมชาติ และบรรยากาศที่ดี ได้พักผ่อนตามที่ต้องการ ได้มิตรภาพที่แท้จริง และไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ทุกอย่างในไร่นาสวนผสมแห่งนี้ ชาวบ้านสามารถมาเดินเก็บ หรือจับขึ้นมาชั่งกิโลเองได้เลย นี่คือแนวคิดใหม่ในการจำหน่ายสินค้า เปลี่ยนเรือกสวนไร่นาให้กลายเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีชีวิต  ให้คนมาเดินซื้อหาได้เอง เลือกได้เอง ตัวเกษตรกรจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเก็บ และเสียเวลาในการนำผลผลิตออกไปขายด้วย  เป็นการลดต้นทุนด้านเวลาได้อีกช่องทางหนึ่ง  โดยใช้ความเชื่อใจในกันและกัน ก็ทำให้คนในชุมชนมีความสุขร่วมกันได้   และจ่าก้องยังได้ แบ่งปันพื้นที่บ่อเลี้ยงกบให้เกษตรกรในหมู่บ้านเดียวกันเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้  โดย  จ่าก้อง  จะคอยเป็นพี่เลี้ยงแนะนำ และช่วยหาตลาดรับซื้อให้ด้วย    เป็นอีกหนึ่งแนวคิดดีๆจากเกษตรกรคนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างผลผลิตจากความขยัน สามารถทำแล้วเกิดประโยชน์ ทำให้คนในชุมชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย  

 นายยศพนธ์ ทัพพระจันทร์ เกษตรจังหวัดสุโขทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรสุโขทัย ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้มีความเสี่ยงในหลายด้าน ทั้งราคาตกต่ำ โรคระบาด และภัยธรรมชาติ ทางเกษตรจังหวัดจึงได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีอยู่หลายโครงการเข้ามาส่งเสริมให้มีการปลูกพืชแบบผสมผสาน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยง แล้วยังมีรายได้เพิ่มด้วย  และได้สนับสนุนให้บ้านของจ่าก้อง เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียง เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกรที่มาศึกษาดูงาน และจะมีการต่อยอดโครงการจากศูนย์เรียนรู้บ้านจ่าก้อง ไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อให้เกษตรกรสามารถมาศึกษาเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อนำกลับไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมต่อตัวเองได้

ใครสนใจอยากจะไปศึกษาดูงาน หรือไปชิมน้ำไผ่ ก็ไปได้ที่ บ้านจ่าก้อง ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย  โทรศัพท์  086 917 7052