เนรมิต"ภูเขาสีชมพู"แห่งแรกแดนใต้

         ที่จุดชมวิวเขานางหงส์ ต.ถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา นายปภาวิน แสงสุริยา นายอำเภอทับปุด พร้อมด้วย นายทวี ลือชา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 12 สาขากระบี่ นำประชาชนชาวจังหวัดพังงา กว่า 500 คน ร่วมโครงการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม "ปลูกชมพูพันธุ์ทิพย์ ปรับภูมิทัศน์ พัฒนาการท่องเที่ยว เขานางหงส์" เฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โดยร่วมกันปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ จำนวน 500 ต้น เพื่อเตรียมเนรมิตให้จุดชมวิวเขานางหงส์ กลายเป็นภูเขาสีชมพูแห่งแรกของภาคใต้ ในช่วงที่ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ออกดอกบานสะพรั่งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม ของทุกปี

         นายปภาวิน แสงสุริยา กล่าวว่า เขานางหงส์ในอดีตนั้น เป็นเส้นทางที่กล่าวขานถึงความอันตราย คู่กับเขาพับผ้าในจังหวัดตรัง เป็นเส้นทางสายหลักของภาคใต้ เชื่อมโยงเข้าสู่จังหวัดพังงาและไปสู่จังหวัดใกล้เคียง มีความสูงประมาณ 400 เมตร มีโค้งมากถึง 120 โค้ง ปัจจุบันมีผู้ใช้เส้นทางน้อยลง และจังหวัดพังงาได้พัฒนาเขานางหงส์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของจังหวัด ได้มีการบูรณะศาลเจ้าแม่นางหงส์ขึ้นใหม่ สร้างหอชมวิว จุดพักรถ และจัดทำระบบไฟฟ้าแสงสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้ที่สัญจรไปมา จึงร่วมกับทุกภาคส่วนมารวมพลังกันปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ และจะร่วมกับบำรุงรักษาเพื่อสร้างความร่มรื่นให้ธรรมชาติ ให้เป็นจุดเช็คอินอีกรูปแบบหนึ่งของจังหวัดพังงา

         นายบำรุง ปิยนามวาณิช กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องขอแสดงความชื่นชมในการเริ่มต้นที่ดีและมีประโยชน์ของนายอำเภอทับปุด และได้ความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องชาวอำเภอทับปุดทุกภาคส่วน สิ่งสำคัญที่อยากฝาก คือ การปลูกต้นไม้นั้นไม่ยากเลย แต่ที่ยากกว่า คือ จะทำอย่างไรให้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ร่วมกันปลูกทั้ง 500 ต้นนี้อยู่รอดปลอดภัย และเจริญเติบโตจนกระทั่งผลิดอกงามสะพรั่งให้พวกเราได้ชื่นชมทุกต้น สิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เป็นเช่นนั้นได้ก็คือ การหมั่นดูแล บำรุงรักษา ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ช่วยกันหาทางป้องกันอย่าให้มีวัชพืชปกคลุมและมีเถาวัลย์พันรัด โดยคิดอยู่เสมอว่าต้นไม้เหล่านี้ คือ สมบัติของพวกเราทุกคน ถ้าจะให้ดีขอให้ทุกคนจดจำไว้ว่าต้นที่ตัวเองปลูกคือต้นไหนบ้าง เวลาผ่านไปผ่านมาก็แวะดูแวะเยี่ยมและบำรุงรักษา เชื่อว่าถ้าได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ในเวลาไม่เกิน 3-5 ปี ทุกคนคงได้ร่วมภาคภูมิใจและคิดถึงกันตลอดไป ในยามที่ชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งสมดังความตั้งใจ

 

แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา