กรมชลฯ วอนเกษตรกรลดปลูกข้าวนาปรัง

 

         กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีแม่น้ำชี บริเวณหลังวัดท่าข้าม หมู่ 9 ตำบลฟ้าหยาด มีสภาพน้ำแห้ง เป็นบางช่วงแห้งเป็นระยะทางเกือบเป็นกิโลเมตรจนสามารถเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ทั้งที่ยังไม่ถึงฤดูร้อน แต่น้ำแห้งเร็วมาก น่าเป็นห่วงแทนประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ นั้น

         นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงลำน้ำชีแห้งขอดที่เกิดขึ้นซึ่งเกิดเป็นประจำเกือบทุกปีในตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย ซึ่งบริเวณโค้งน้ำแห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายระยะทางประมาณ 200 ม. โดยเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2561/2562 ประมาณ 1,000 ไร่ โดยอาศัยสูบน้ำจากแม่น้ำชี ด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ซึ่งลักษณะน้ำชีแห้งขอดที่เกิดขึ้น เกิดเป็นประจำเกือบทุกปี การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ได้มีการทำฝายกระสอบทรายขวางกั้นลำน้ำชี

 

         ล่าสุดดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 โดยองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่โรงสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร พบว่า โรงสูบน้ำเป็นแบบแพลอย ขึ้นลงได้ตามระดับน้ำ ปัจจุบันระดับน้ำลึกประมาณ 3.00 - 4.00 ม. สามารถสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาได้สะดวก สถานการณ์ทั่วไปปกติ

         ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปี 2561 สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 6 และ 8 เพื่อเตรียมการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูลประจำปี 2561/2562 และได้จัดประชุมคณะกรรมการเปิด-ปิด บานระบายของเขื่อนยโสธร และเขื่อนธาตุน้อย เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการน้ำและเตรียมรับมือภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากน้ำต้นทุนในลำน้ำและเขื่อนขนาดใหญ่มีน้อย โดยให้ความสำคัญในเรื่องการอุปโภค-บริโภค และการรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วน ลดการปลูกข้าวนาปรังทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน พร้อมส่งเสริมให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนในฤดูแล้ง นอกจากนี้ สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ดำเนินการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี และขอสนับสนุนน้ำจากสำนักงานชลประทานที่ 6 ในช่วงฤดูแล้งประจำปี 2561/2562

 

         สำหรับเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญของแม่น้ำชีมีเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำตามหลักวิชาการ และสามารถจัดสรรน้ำจากปริมาณน้ำต้นทุนให้สอดคล้องกับกิจกรรมเพื่อการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศ และเกษตรกรรมอย่างเพียงพอตลอดลำน้ำชีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

         อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแม่น้ำชีช่วงระหว่างเขื่อนยโสธรและเขื่อนธาตุน้อย มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร เมื่อเขื่อนธาตุน้อยเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก (+116.00 ม.รทก.) ระดับน้ำจะส่งผลกระทบถึงประมาณ บ้านเวินชัย ตำบลผือฮี อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เท่านั้น หากเขื่อนยโสธรไม่ระบายน้ำลงมาเพิ่มเติมจะทำให้บริเวณตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ขาดแคลนน้ำได้ ประกอบกับแม่น้ำชีในช่วงดังกล่าว ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางน้ำชลประทาน ในการแก้ปัญหาระยะยาวปัญหาน้ำแล้งในแม่น้ำชี จึงจำเป็นต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำน้อยในช่วงฤดูแล้งและสามารถระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก ต่อไป

 

AD BANNER HEAD