ก.เกษตร จับมือ 2 สมาคม รับซื้อข้าวโพดราคาไม่ต่ำกว่า 8 บาท/กก.

         เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) "โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา" ร่วมกับ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย และ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ณ กรมชลประทาน สามเสน โดยมี กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และ กรมวิชาการเกษตร ร่วมเป็นสักขีพยาน
         นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยว่า โครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังทำนา ปี 2561 มีการวางแผนปลูกข้าวรอบแรก เต็มพื้นที่กว่า 58 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 24 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนในรอบสอง รัฐบาลตั้งเป้าหมาย 2 ล้านไร่ ล่าสุดมีเกษตรกรเข้าร่วมแล้ว 95,620 ราย เป็นพื้นที่ 807,155 ไร่ คิดเป็น 74 % ของโครงการ ซึ่งเกษตรกรยังสามารถเข้าร่วมได้ถึง 15 ม.ค. 2562 ระยะเวลาปลูก 120 วัน เก็บเกี่ยวได้ก่อนฤดูฝนจะทำให้ผลผลิตข้าวโพดมีคุณภาพสูง นอกจากลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังแล้ว ยังแก้ปัญหาความขัดแย้งแย่งใช้น้ำทำนาช่วงหน้าแล้ง และลดปริมาณข้าวได้กว่า 1 ล้านตัน จะทำให้ผลผลิตข้าวสมดุลไม่ล้นตลาด

         "เรื่องราคาขายข้าวโพด เกษตกรต้องได้ไม่ต่ำกว่า 8 บาทต่อกก. กำไรมากกว่าทำนาปรัง ทั้งนี้เป็นการบริหารแผนการผลิตสินค้าเกษตรทุกชนิด ให้เกิดศักยภาพตรงตามความต้องการภายในประเทศ เช่น ข้าวโพดต้องการปีละ 8 ล้านตัน ผลิตได้ 5 ล้านตัน ยังขาดข้าวโพดถึง 3 ล้านตัน ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ส่วนปาล์มน้ำมัน ยางพารา ก็จะใช้แนวทางนี้เช่นกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลอย่างเข้มงวดห้ามมีการลักลอบขนสินค้าเกษตรเข้าไทยอย่างเด็ดขาด เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการลักลอบนำสินค้าเกษตรตามแนวชายแดน" รมช.เกษตรฯ กล่าว
         ด้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยืนยันว่า ผลผลิตข้าวโพดทุกเมล็ดมีผู้รับซื้อในพื้นที่ จึงไม่มีปัญหาหาที่ขายไม่ได้ หรือต้องขนไปขายข้ามจังหวัดแน่นอน โดยสหกรณ์ได้ตั้งจุดรับซื้อ 262 แห่ง และในส่วนพื้นที่ไม่มีสหกรณ์ เอกชนได้ประสานตั้งจุดรับซื้อแล้ว 32 จุด ขณะที่ นายบุญธรรม อร่ามศิริวัฒน์ เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวเสริมว่า รับประกันราคาซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรจะไม่ต่ำกว่า 8 บาทต่อกก.แน่นอน เพราะวัถตุดิบยังคงไม่พอผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์ และเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าโลก