หลักเกณฑ์ 5 ข้อ ร่วมปลูกข้าว กข43 : แนวทางขับเคลื่อนปี 2562

    รมการข้าว - ดร.กฤษณพงศ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล อธิบดีกรมการข้าว เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ : พันธุ์ กข43 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย กรมการข้าว กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

      โดยที่ประชุมได้พิจารณาโครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ พันธุ์ กข43 ในปี 2562 และ มีมติเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมของเกษตรกรโดยไม่กำหนดจังหวัด หรือพื้นที่ในการปลูก แต่ พิจารณาจากคุณสมบัติของเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ใน 5 ข้อ ดังนี้ 1) เป็นสถาบันเกษตรกร สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เป็นนาแปลงใหญ่ 2) สามารถผลิตข้าวตามมาตรฐาน GAP หรืออินทรีย์ 3) มีโรงสีมาตรฐาน GMP หรือโรงสีที่พร้อมเข้าสู่ระบบตรวจรับรอง GMP 4) มีการเชื่อมโยงตลาดรับซื้อ แหล่งรวบรวมผลผลิตโดยสหกรณ์ หรือผู้ประกอบการ 5) สามารถรองรับระบบการตรวจสอบย้อนกลับได้

       พร้อมกันนี้ มติที่ประชุมยังได้ปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการโครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ : พันธุ์ กข43 ปี 2561 โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม และแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการให้เกิดความเหมาะสมในการปฏิบัติราชการ สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

      ทั้งนี้ ข้าวพันธุ์ กข 43 เป็นข้าวอายุสั้น 95 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เหนียวนุ่ม ตลาดมีความต้องการสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะมีน้ำตาลต่ำเหมะสมกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ต้องการคุมน้ำหนัก ปัจจุบันมีสหกรณ์นำร่องปลูก 8 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรบ้านลาด จำกัด สหกรณ์การเกษตรเขาย้อย จำกัด จ.เพชรบุรี สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธกส.พระนครศรีอยุธยา จำกัด สหกรณ์การเกษตรท่าเรือ จำกัด สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินช้างใหญ่ จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด จ.อุทัยธานี สหกรณ์การเกษตรทุ่งวัดสิงห์ จำกัด จ.ชัยนาท และสหกรณ์การเกษตรดอนเจดีย์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี