หนองคาย 13 ธ.ค.-นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้ขยายพื้นที่ปลูกข้าวโพดตามโครงการสานพลังประชารัฐ โดยสนับสุนนให้มีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาอีก 4 จังหวัด ประกอบด้วย เลย มุกดาหาร ยโสธร และอำนาจเจริญ จากเดิม 33 จังหวัด เนื่องจากพบว่า 4 จังหวัด มีศักยภาพ โดยรัฐสนับสนุนเงินให้เกษตรกรรายละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย สมาคมวินาศภัยไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ค้ำประกันไร่ละ 1,500 บาท เบี้ยประกันไร่ละ 65 บาท
ด้านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กำลังเร่งรับสมัครเกษตรกรทั้ง 37 จังหวัด ซึ่งจากการสำรวจความต้องการได้พื้นที่ 1,023,276 ไร่ สมัครแล้ว 768,120 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 75.06 ของพื้นที่สำรวจ ยังเปิดรับสมัครถึงวันที่ 15 มกราคม 62 จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมปศุสัตว์ และกรมพัฒนาที่ดิน เชิญชวนให้เกษตรกรสมัครร่วมโครงการเพิ่มให้ครบตามจำนวนพื้นที่สำรวจ ซึ่งขณะนี้ได้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวทั้งระดับจังหวัดและอำเภอให้วางแผนการเพาะปลูก คาดการณ์ปริมาณผลผลิต รวมถึงจัดเครื่องจักรกลสนับสนุนการเพาะปลูกทุกพื้นที่ แล้วให้รายงานความคืบหน้ามายังศูนย์ปฏิบัติการ (War Room) ส่วนกลางทุกวัน
อีกทั้ง ได้รับรายงานจากนายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรว่า รับมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อใช้สนับสนุนในการปรับปรุงฐานข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร การรายงานความเสียหายจากภัยธรรมชาติ การประกันภัยพืชผลของประเทศไทยให้ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจทุกชนิดตามนโยบายรัฐบาล โดยประสานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้ง เพิ่มประสิทธิภาพระบบฐานข้อมูลสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ให้รองรับการเพิ่มพื้นที่เป้าหมายในอนาคต รองรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทน รวมถึง เก็บข้อมูลพื้นที่ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 โดยแยกประเภทพืชต่างๆ
ในอนาคตหากระบบนี้เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายจะช่วยลดงบประมาณรัฐที่ใช้เยียวยาภาคการเกษตรที่ต้องเสียไป 7,000-8,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯแล้ว หลังจากปลูกข้าวโพด 15 วัน ให้รีบแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ที่สำนักงานเกษตรอำเภอเพื่อเข้าสู่ระบบประกันภัยต่อไป
“สำหรับเกษตรกรที่ไม่เคยปลูกข้าวโพด ไม่ต้องกังวล ทั้งกรมส่งเสริมการเกษตรและสมาคมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ของไทย จะให้คำแนะนำ ช่วยดูแลแปลงอย่างใกล้ชิด เมื่อข้าวโพดออกฝัก ทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยพร้อมรับซื้อทั้งหมด โดยตั้งจุดรับซื้อครอบคลุมทุกอำเภอ ณ วันนี้ราคากิโลกรัมละ 9.87 บาท ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีกเนื่องจาก โรงงานผลิตอาหารสัตว์ต้องการใช้ แต่ผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอ จนต้องแข่งกันรับซื้อ ตามโครงการฯ รับประกันราคารับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท แต่ทางสมาคมฯ มั่นใจว่า อีก 4 เดือนข้างหน้า เมื่อผลผลิตออกราคาที่ความชื้นร้อยละ 14.5 จะไม่ต่ำกว่า 9 บาทต่อกิโลกรัมแน่นอน” นายกฤษฎากล่าว