กรุงเทพฯ 8 พ.ย.- นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเจรจาธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว ระหว่างผู้นำเข้าข้าวต่างประเทศและผู้ประกอบการไทย ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า มีผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 160 ราย จาก 28 ประเทศทั่วโลก อาทิ จีน ฮ่องกง แคนาดา สหรัฐฯ ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง อาเซียน พร้อมผู้ประกอบการไทยกว่า 170 ราย เชื่อมั่นจะเร่งรัดการส่งออกข้าวของไทยสู่ตลาดโลกให้บรรลุได้ตามเป้าหมาย

      สำหรับโครงการจับคู่ธุรกิจครั้งนี้จัดขึ้นตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งผลักดันการค้าระหว่างประเทศของไทย เพื่อขยายลู่ทางการส่งออกสินค้าข้าว และผลิตภัณฑ์จากข้าวสู่ตลาดโลกให้ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งดูดซับผลผลิตออกจากตลาดช่วงต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวและพยุงราคาให้แก่เกษตรกร โดยมอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อ เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งคาดจะก่อให้เกิดคำสั่งซื้อทันทีประมาณ 1,500 ล้านบาท และคำสั่งซื้อใน 1 ปีอีกราว 30,000 ล้านบาท

      ทั้งนี้ จากการติดตาม ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสูงถึง 16,000-17,000 บาทต่อตัน ขณะที่ข้าวเปลือกแห้งสูงถึง 18,000 บาทในบางพื้นที่ และเตรียมมาตรการสนับสนุน อาทิ จัดหารถเกี่ยวข้าว นวดข้าว ในราคายุติธรรมเฉลี่ย 400-550 บาทต่อไร่ ที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ชาวนา โดยราคาเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 700 บาทต่อไร่ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพให้แก่ผู้นำเข้าในคราวเดียวกัน 

      ภายในงานยังมีการลงนามความตกลง MOU ระหว่างผู้นำเข้าข้าวต่างประเทศกับผู้ประกอบการไทย 4 ฉบับ รวม 93,000 ตัน ฉบับแรก ระหว่าง 759 Store ผู้นำเข้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มี 224 สาขาทั่วเกาะฮ่องกง กับบริษัท Siam Diamond Export Rice จำกัด สั่งซื้อข้าวหอมมะลิไทย 10,000 ตัน ฉบับที่ 2 ระหว่าง 759 Store ของฮ่องกงกับบริษัท Global Rice Intertrade จำกัด สั่งซื้อข้าวหอมปทุมธานี 4,000 ตัน และนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าว เพื่อเจาะตลาดภัตตาคารและร้านค้าทั่วไป ฉบับที่ 3 ระหว่างบริษัท Everflowing Fortune Trading Inc.จากฟิลิปปินส์กับบริษัท Asia Golden Rice จำกัด สั่งซื้อข้าวขาวไทย 5% 15% และ 25% รวม 70,000 ตัน และข้าวหอมมะลิไทย อีก 5,000 ตัน ฉบับที่ 4 ระหว่างบริษัท Guangdong Youliang Grain & Oil Industrial Co., Ltd. จากจีน กับบริษัท Homkula จำกัด สั่งซื้อข้าวหอมมะลิไทย GI และข้าวหอมมะลิไทยออร์แกนิกส์ 4,000 ตัน 

      โดยโครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เพื่อเร่งรัดการส่งออกครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2561 โดยหน่วยงานต่างๆของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ บูรณาการการทำงานร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญา และภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสมาคมโรงสีข้าวไทย วัตถุประสงค์เพื่อเร่งรัดส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวของไทย นำไปสู่การส่งออกข้าวไทยที่ปริมาณ 11 ล้านตันตามเป้าหมาย พร้อมกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักถึงการแปรรูปข้าวเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และประชาสัมพันธ์ข้าวชนิดใหม่ ข้าวสีของไทย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น อาทิ ข้าว กข 43 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวหอมนิล และข้าวหอมมะลิแดง 

      ภายในงานยังจัดนิทรรศการเกี่ยวกับข้าว ข้าวสี และนวัตกรรมข้าวของไทย สาธิตประกอบอาหารจากข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว การชิมข้าวไทยจากผลิตภัณฑ์อาหาร Ready to Cook และ Ready to Eat ที่ได้ตรารับรอง Thai SELECT และนำผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศเยี่ยมชมสถานประกอบการสินค้าข้าว ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย (นาเฮียใช้) จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตและแสดงศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวของไทย สร้างความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานข้าว สร้างภาพลักษณ์ที่ดี นำไปสู่การขยายลู่ทางการส่งออกสู่ตลาดโลก ซึ่งสินค้าข้าวเป็นสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ มีมูลค่าส่งออกเป็นลำดับต้นๆของสินค้าเกษตรทั้งหมดที่ไทยส่งออกปี 2561 ตั้งแต่ มกราคม-กันยายน ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 8.12 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4,101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.13 จากช่วงเดียวกันของปี 2560 ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เบนิน สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย จีน และฟิลิปปินส์ เป็นต้น