น้ำพระราชหฤทัยไม่สิ้นสุด สืบสานงานพัฒนาแหล่งน้ำ

น้ำพระราชหฤทัยไม่สิ้นสุด
สืบสานงานพัฒนาแหล่งน้ำ
โดย ปรีชา อภิวัฒนกุล


         ชัดเจนที่สุดว่า โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริยังคงอยู่ แม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จะเสด็จสู่สวรรคาลัย
         สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ไม่เพียงรับสั่งขับเคลื่อนโครงการของพระบรมราชชนกเท่านั้น หากยังรับสั่งพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ๆ ด้วยพระองค์เองด้วย เป็นการสืบสานต่อยอดโครงการในรัชกาลที่ 10
         ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า สทนช. รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สั่งการให้ สทนช. ขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริเหล่านี้นับแต่เริ่มก่อตั้ง สทนช. ใหม่ๆ โดยให้ต่อยอดจนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เกิดประโยชน์ต่อประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริงและต้องยั่งยืนด้วย
         ขึ้นชื่อเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ล้วนเป็นโครงการเกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสิ้น ไม่ว่าน้ำท่วม ขาดแคลนน้ำ ตลอดจนคุณภาพน้ำที่ไม่เหมาะสม และบางโครงการก็ซับซ้อนชนิดรัฐลงมือเองโดยลำพังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
         สทนช. แม้เป็นหน่วยงานใหม่ในสำนักนายกรัฐมนตรี แต่เป็นหน่วยงานกลางบริหารจัดการน้ำของประเทศ สามารถประสานงานกับหน่วยงานอื่นต่างกระทรวงได้อย่างกว้างขวาง เช่น หน่วยงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ หน่วยงานด้านงบประมาณ เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนเร่งรัดงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้เร็วขึ้น เพราะมีหน่วยงานกลางอย่าง สทนช. มากำกับทิศทางเอง

         ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนหน้านี้ ในตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน ดร.สมเกียรติ เคยวางแผนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รัชกาลที่ 9 ที่ยังเหลืออยู่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วอยู่แล้ว เพราะถือเป็นภารกิจสำคัญของหน่วยงานอย่างกรมชลประทาน
         การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ น่าจะเป็นโอกาสดีที่ดำเนินการภายใต้ สทนช.
         ทั้งนี้ สทนช. จำแนกโครงการเป็นกลุ่ม โดยยกเอาโครงการที่มีความพร้อมมาขับเคลื่อนเป็นลำดับแรก
         โครงการฯ ในรัชกาลที่ 9 จำนวน 78 โครงการ ประกอบด้วยโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 30 โครงการ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมก่อนขอรับการสนับสนุนงบประมาณ 38 โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องต่างๆ 10 โครงการ
         โครงการฯ ในรัชกาลที่ 10 จำนวน 22 โครงการประกอบด้วยโครงการที่สำนักงาน กปร. พิจารณาสนับสนุนงบประมาณแล้ว 10 โครงการ และอยู่ระหว่างสำรวจออกแบบและขอรับสนับสนุนงบประมาณจำนวน 12 โครงการ
         ล่าสุด พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้ง ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ
         สทนช. และ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน และโครงการป้องกันอุทกภัย อ.บางสะพาน

         ดร.สมเกียรติกล่าวว่า โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านป่าละอูเป็นโครงการพัฒนาต่อเนื่องจากอ่างเก็บน้ำป่าเลา แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องความจุอ่าง 1.9 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างต่อเนื่องของเกษตรกร กรมชลประทานจึงวางแผนก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านป่าละอู 10.46 ล้านลูกบาศก์เมตร และเร่งรัดการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จนสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ คาดว่าจะสามารถเก็บกักน้ำได้ในปี 2563 หรือต้นปี 2564 เร็วกว่าแผนที่กำหนดในปี 2565
         ทั้งนี้จะสามารถส่งน้ำให้พื้นที่ได้ 6,490 ไร่ ในเขต ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ รวมทั้งน้ำอุปโภคบริโภคสำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู และเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดที่ไม่เหมือนที่อื่น ตรงที่มีสันเขื่อนเดิมกลางอ่างเก็บน้ำ
         อ่างเก็บน้ำบ้านป่าละอู เป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ เพื่อสนองตอบพระราชดำริในการที่จะช่วยเกษตรกรได้มีน้ำกิน น้ำใช้ น้ำเพื่อการเกษตร อย่างเหมาะสมเพียงพอ