ให้สิทธิ์ทำกินแบบแปลงรวม 30ปี : แก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ

 

     รุงเทพฯ - พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวในงานประชุมเชิงปฏิบัติการชุดปฏิบัติการ คทช.อำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้กว่า 600 คนเข้าร่วมประชุม ว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อแก้นโยบายลดเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเกษตรกรไร้ที่ดินทำกิน 

      ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับสนองนโยบายเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่อื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงฯ โดยการเสนอมาตรการแก้ปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เข้าสู่การพิจารณาของ คทช.มีเป้าหมายดำเนินการพื้นที่ 3,900,307 ไร่

       ด้านนางอำนวยพร ชลดำรงค์กุล ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ กล่าวถึงหลักการของ คทช.ว่า นโยบายนี้ไม่ได้แจกพื้นที่ป่า แต่เป็นการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านช่วยกันดูแลพื้นที่ป่าให้ทำกินแบบแปลงรวม เพราะที่ผ่านมามีคนอยู่ในป่าตามมติครม.30 มิ.ย.41 และอยู่หลังมติ ซึ่งจะจำกัดคนละ 5-20 ไร่ และให้ผู้ว่าฯขออนญาตทำกิน 30 ปี ไร่ละ 25 บาทต่อไร่ และจะทำสมุดบันทึกให้แต่ละราย

      “หลักการห้ามซื้อขายห้ามโอนและขายสิทธิ์ไปอยู่ในมือนายทุน การคัดกรองต้องร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และตรวจสอบหากพบเกิดปัญหาจะหมดสิทธิทันที”

      ก่อนหน้านี้ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ยอมรับว่ามติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 ไม่สามารถควบคุมชาวบ้านในเขตป่าได้ทุกกลุ่มทุกประเภท และถ้าได้รับรองตามกฎหมาย รัฐจะได้แนวร่วมในการดูแลป่าแทนการไล่จับคนที่อยู่ในป่า ทั้งนี้ คาดว่ามีตัวเลขของประชาชนที่อยู่ในป่ากว่า 10 ล้านคน โดยใช้ประโยชน์พื้นที่ป่ารวมกว่า 20 ล้านไร่