กตส. พอใจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ไตรมาส 3 รายได้ 0.36 ล้านล้านบาท (ชมคลิป)

         นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสาวจุฑามาศ ลิปิการถกล รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สุพรรณบุรี เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากร พร้อมทั้งมอบข้อเสนอแนะและแนวทางการปฏิบัติงานตามนโยบายกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2561

        นายโอภาส กล่าวว่า สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีจำนวนทั้งสิ้น 11,377 แห่ง ประกอบด้วยสหกรณ์ภาคการเกษตร (เกษตร ประมง นิคม) 3,988 แห่ง สหกรณ์นอกภาคการเกษตร (ร้านค้า บริการ ออมทรัพย์ เครดิตยูเนี่ยน) 3,242 แห่ง และ กลุ่มเกษตรกร  4,147 แห่ง มีสมาชิกทั้งสิ้น 12.71 ล้านคน หรือร้อยละ 19.18 ของประชากรไทยทั้งประเทศ สหกรณ์ภาคการเกษตรมีสมาชิกสูงสุด 6.83 ล้านคน  รองลงมาเป็นสมาชิกสหกรณ์นอกภาคการเกษตร 5.35 ล้านคน และสมาชิกกลุ่มเกษตรกรสมาชิก 0.53 ล้านคน ทุนดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั้งสิ้น 3.16 ล้านล้านบาท
         ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2561 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีรายได้ทั้งสิ้น 0.36 ล้านล้านบาท โดยสหกรณ์ นอกภาคการเกษตรมีรายได้สูงสุด 0.18 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 49.58 ของรายได้รวมทั้งสิ้น การดำเนินงานมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 0.27 ล้านล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 9.18 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 25.70 ของรายได้ทั้งสิ้น กำไรสุทธิขยายตัวจากไตรมาสที่ 2/2561 เล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 0.33 โดยสหกรณ์นอกภาคการเกษตรทำกำไรสุทธิสูงสุด 8.78 หมื่นล้านบาท

         อย่างไรก็ตาม สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดำเนินธุรกิจมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากภัยธรรมชาติ ต่าง ๆ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศ ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภาคสหกรณ์ไทยในด้านของการลงทุน การออม การบริโภค และภาระการผ่อนชำระหนี้ของสมาชิก จึงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังทางการเงิน โดยสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรควรพิจารณาหาแนวทางการลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มรายได้ มีการเชื่อมโยงเครือข่าย จัดหาตลาดกลาง และมีระบบเตือนภัยทางการเงินเพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการทางการเงิน ตลอดจนการวางแผนและบริหารธุรกิจให้เติบโตสร้างความมั่นคงและความเข้มแข็งทางการเงิน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

         ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้สร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์ โดยการนำระบบบัญชีมาใช้บริหารจัดการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความโปร่งใส ส่งผลประโยชน์สู่สมาชิกและช่วยสร้างฐานรากเศรษฐกิจชุมชนที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและสร้างครูบัญชีอาสา ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ได้แก่ นางนิตยา จันชัยภูมิ ครูบัญชีดีเด่น ระดับภาคประจำปี 2561 จากจังหวัดสุพรรณบุรี และผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรหนองหญ้าไซ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้นำระบบบัญชีที่ได้เรียนรู้จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มาช่วยสร้างความเข้มแข็งแก่สมาชิกสหกรณ์

         สำหรับ นางนิตยา เริ่มต้นบันทึกบัญชีเมื่อปี 2548 จากการได้รับการสอนแนะการจดบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สุพรรณบุรี จึงนำข้อมูลที่ได้รับจากการบันทึกบัญชีมาวิเคราะห์และปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ได้สร้างเครือข่ายครูบัญชีเพื่อถ่ายทอดความรู้ทางบัญชีแก่สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งได้ขยายเครือข่ายไปยังเยาวชนของชาติ โดยเข้าไปสอนแนะการจดบันทึกบัญชีให้กับนักเรียนในจังหวัดสุพรรณบุรี และร่วมกับสหกรณ์จัดโครงการออมทรัพย์ ออมความดีถวายพ่อหลวง มอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานสมาชิก และนักเรียนที่จดบันทึกบัญชีรายรับ รายจ่ายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เด็กๆเยาวชนมีการวางแผนการจัดการงานด้านการเงิน การออม รวมถึงการทำบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไปอีกด้วย