ประมงลำปางเพาะพันธุ์"ปลารากกล้วยจินดา"สำเร็จครั้งแรก!

 

    กรุงเทพฯ  22 ส.ค. - นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ขณะนี้กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำปาง สามารถเพาะพันธุ์ “ปลารากกล้วยจินดา”สำเร็จเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะปลารากกล้วยจินดาเป็นปลาพื้นถิ่นของประเทศไทย ปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์พบน้อยมากในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะเป็นปลาที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังถูกจับขึ้นมาขายเป็นเมนูขึ้นโต๊ะประจำร้านอาหารมากมาย เนื่องจากเป็นปลาที่มีรสชาติอร่อย ประชาชนนิยมรับประทานมาก จึงเป็นเหตุให้ปลารากกล้วยจินดาในธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น กรมฯ จึงสนับสนุนให้มีการศึกษาและทดลองเพาะพันธุ์ปลารากกล้วยจินดา โดยใช้เวลาเพียง 6 เดือนก็สามารถศึกษาและเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ ส่วนจะผลักดันให้เป็นปลาปลาเศรษฐกิจประจำถิ่น เนื่องจากมีราคาสูงถึง 300-400 บาทต่อกิโลกรัมหรือไม่นั้น ต้องศึกษาถึงความคุ้มทุนก่อนว่าเหมาะสมมากน้อยเพียงไร 

     นายสง่า ลีสง่า ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กล่าวว่า สำหรับปลารากกล้วยจินดาเป็นปลาที่มีลักษณะรูปร่างเพรียวยาว ประมาณ 10-15 เซนติเมตร ลำตัวค่อนข้างกลม มีจะงอยปากยาวแหลม มีหนวดสั้นๆ 3 คู่ มีหนามแหลมอยู่ใต้ตา ตัวมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวหนังเรียบและมีเมือกคลุม ส่วนหัวด้านบน และลำตัวมีจุดสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งต่างจากปลารากกล้วยชนิดอื่นที่มีหน้ายาวและจุดขนาดเล็กกว่า มีครีบหลัง 10 ก้าน ครีบหางเว้าตื้นและมีแต้มดำ ชอบอาศัยอยู่อาศัยในแม่น้ำบริเวณที่มีพื้นท้องน้ำที่เป็นทราย โดยเฉพาะพบบริเวณแถบลุ่มน้ำโขง และลุ่มน้ำเจ้าพระยา 

     สำหรับการเพาะพันธุ์ปลารากกล้วยจินดา ในโครงการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำประจำถิ่นและสัตว์น้ำหายากใกล้สูญพันธุ์ ประจำปี 2561 นายอรรถพล โลกิตสถาพร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดลำปาง ซึ่งเป็นผู้ที่เพาะพันธุ์กล่าวถึงกระบวนการเพาะพันธุ์ว่า ศูนย์น้ำจืดฯ ลำปางได้รวบรวมพันธุ์ปลารากกล้วยจินดาในธรรมชาติตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2561 ในพื้นที่ลำห้วยสาขาต้นน้ำวัง อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอวังเหนือของจังหวัดลำปาง ซึ่งได้มาทั้งหมด 77 ตัว โดยนำมาเลี้ยงไว้จนกระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบปลามีความสมบูรณ์เพศทั้งเพศผู้และเพศเมีย จึงได้ทดลองเพาะพันธุ์ครั้งแรกได้ลูกปลา 40 ตัว และศึกษาวิจัยเพิ่มทดลองเพาะพันธุ์ต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง จนปัจจุบันมีอัตราการรอดและได้ลูกพันธุ์รวม 5,500 ตัว ซึ่งทางหลักวิชาการถือว่าประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ ที่สำคัญจากการตรวจสอบเอกสารวิชาการของไทยเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเพาะพันธุ์ปลาดังกล่าวได้สำเร็จ จึงถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่สามารถเพาะพันธุ์ปลารรากกล้วยจินดาได้สำเร็จ คาดว่าต้นเดือนกันยายนจะร่วมกับประชาชนในพื้นที่นำลูกพันธุ์บางส่วนไปปล่อยคืนสู่แหล่งน้ำที่ไปรวบรวมพ่อแม่พันธุ์มาเพื่อคงความหลากหลายและเพิ่มปริมาณประชากรปลารากกล้วยจินดาให้มากขึ้น อีกทั้ง เป็นการให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์ฟื้นฟูดูแลและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในพื้นถิ่นของตน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำในธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป

     ที่มา : สำนักข่าวไทย