เกษตรฯ ย้ำ เสนอแผนลดใช้สารเคมี 3 ชนิดแล้ว พร้อมส่งเสริมเกษตรอินทรีย์

         จากกรณีที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน มีมติให้ใช้สารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ซึ่งเป็นสารกำจัดวัชพืชและแมลง โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดแผนจำกัดการใช้ภายใน 60 วันนั้น
         นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้เขียนแผนจำกัดการใช้เสนอไปแล้ว จากเดิมอนุญาตให้นำเข้าสารทั้ง 3 ชนิด ปีละ 30,000-40,000 ตัน เหลือปีละ 13,000-14,000 ตัน โดยผู้ที่จะใช้สารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตได้ต้องผ่านการอบรมจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมและต้องมีใบอนุญาต ต้องประสานผู้นำชุมชน เช่น กำนันและผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยตรวจสอบ หากพบผู้ใช้ที่ไม่มีใบอนุญาตลักลอบใช้จะต้องมีบทลงโทษ ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่าจะอนุมัติตามข้อเสนอหรือไม่
         ทั้งนี้แผนจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด กระทรวงเกษตรฯ ได้ศึกษาข้อมูลจากสหภาพยุโรป และอเมริกาที่ได้เลิกใช้และเห็นด้วยกับกระทรวงสาธารณสุขที่เสนอให้ยกเลิกใช้ เนื่องจากก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงตกค้างในผลิตภัณฑ์การเกษตร ทว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นเพียงหน่วยงานปฏิบัติ หากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติให้ใช้ต่อไป กระทรวงเกษตรฯ ก็ไม่มีอำนาจเพิกถอน
         รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเกษตรกรนิยมใช้สารกำจัดวัชพืชและแมลงทั้ง 3 ชนิด ขณะที่การเชิญชวนให้ใช้สารชีวภัณฑ์แทนของหน่วยงานภาครัฐไม่ได้ผลเท่าที่ควร จึงต้องการให้นักวิชาการและองค์กรเอกชนช่วยรณรงค์ลดเลิกใช้สารดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ก็มีนโยบายส่งเสริมการทำกสิกรรมธรรมชาติและเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ไม่ต้องเสียเงินซื้อสารเคมีแล้วยังปลอดภัยทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค