กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขับเคลื่อนกสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง

         นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปิง "การพัฒนาระบบกสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง" ระยะที่ 1 โดยมี นายคำรณ พวงมณี ผู้ตรวจราชการกรมเขต 15, 16, นายวิโรจน์ ภู่ไพบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์, นายปรัชญา มากไมตรี สหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดบ้านสองธาร ตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2561
         สำหรับโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา ในเขตพื้นลุ่มน้ำปิง มีพื้นที่เป้าหมายที่ตำบลกองแขก ตำบลบ้านทับ ตำบลบ้านเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงในที่ดินทำกิน สร้างป่า สร้างรายได้ ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว หยุดเผาป่าเพื่อแก้ปัญหาหมอกควัน มุ่งสู่การเป็นชุมชนต้นแบบ

         ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ในหมู่บ้านเป็นผู้สูงอายุและเด็ก ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ข้าวโพด พื้นที่ทำการเกษตรถูกทำลาย จากผลการสำรวจภาระหนี้สินพบว่า ประชากร 80 ราย มีหนี้สินประมาณ 25 ล้านบาท โดยอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับผู้แทน ธ.ก.ส. ผู้แทนธนาคารออมสิน ร่วมวางแผนและกำหนดแนวทางการพัก ชำระหนี้ และชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือปัญหาหนี้สินของเกษตรกร โดยมีแนวทางในการช่วยเหลือด้านหนี้สินของ ธกส. ออมสิน และสหกรณ์ ดังนี้

         1.ระยะเวลาโครงการ 10 ปี, 2.พักชำระต้นเงิน และดอกเบี้ยใน 3 ปีแรก, 3.ดอกเบี้ยเดิมแขวนไว้ในปีสุดท้ายของโครงการ หากชำระเงินกู้ตามงวดที่จัดสรรใหม่ได้ ลดดอกเบี้ยเดิมที่แขวนไว้ให้ครึ่งหนึ่ง, 4.นำหนี้เงินกู้เดิมมาจัดชำระงวดใหม่ โดยเริ่มชำระตั้งแต่ปีที่4 เป็นต้นไป อย่างน้อยร้อยละ 10 ในปีที่ 4 พร้อมดอกเบี้ย, 5.ขอรับการอุดหนุนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นใหม่ ร้อยละ 3 ต่อปี ใน 5 ปีแรกจากรัฐบาล, 6.เกษตรกรต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบองโครงการที่กำหนด (ศาสตร์พระราชาอย่างเข้มแข็ง), 7.กรณีเกษตรกรต้องการเงินทุนเพื่อนำไปฟื้นฟูการผลิตและการประกอบอาชีพใหม่ สามารถขอสินเชื่อในรูปแบบกลุ่ม ผ่านสถาบันของเกษตรกรและขอรัฐบาลอุดหนุนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ไม่เกิน 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อพลิกฟื้นธรรมชาติ พลิกฟื้นชีวิต เป้าหมาย : 3 ปี คืนธรรมชาติ 10 ปี ปลดหนี้ สร้างชีวิต