ทุเรียนซิตี้แห่งอีสาน

ทุเรียนซิตี้แห่งอีสาน
โดย ปรีชา อภิวัฒนกุล

         ทุเรียนภูเขาไฟคือกลยุทธ์เด็ดดวงของ นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
         ถนนทุกสายมุ่งไปที่ศรีสะเกษ โดยเฉพาะ 3 อำเภอ ที่กำหนดเป็นสินค้า GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทุเรียนภูเขาไฟ ได้แก่ อ.ขุนหาญ อ.กันทรลักษ์ และอ.ศรีรัตนะ เท่านั้น
         พันธุ์ทุเรียนภูเขาไฟ GI ก็จำกัด 3 สายพันธุ์ คือ หมอนทอง ชะนี และก้านยาว เท่านั้น
         พ้นจากนี้ไม่ใช่ทุเรียนภูเขาไฟ GI ของแท้
         ใน 3 อำเภอ พื้นที่ปลูกทุเรียนมาก ได้แก่ ขุนหาญ กันทรลักษ์ และศรีรัตนะ รวมๆ กันแล้วไม่เกิน 10,000 ไร่

         แต่ปี 2561 นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอกันทรลักษ์ เล่าว่า เฉพาะ อ.กันทรลักษ์ มีการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนจาก 2,400 ไร่ เป็น 4,400 ไร่ เพิ่มขึ้นเกือบ 100% เฉพาะส่วนที่แปลงจากสวนยางพารา มาเป็นสวนทุเรียนประมาณ 2,900 ไร่
         หากมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ ความจุ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร เชื่อว่า จะมีส่วนทำให้เกษตรกรตัดสินใจขยายพื้นที่มากกว่านี้
         "ปกติแถบนี้ ชาวสวนใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและขุดบ่อใช้น้ำใต้ดิน ถ้ามีแหล่งน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง เท่ากับมีความมั่นคงเรื่องน้ำมากขึ้น"
         เป็นทิศทางเดียวกับกรมชลประทานอย่าง นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ ระบุว่า น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง นอกจากใช้กับพืชทั่วไปแล้ว ยังจะใช้สำหรับพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าอย่างทุเรียน
         สำหรับ อ.กันทรลักษ์ มีพื้นที่ปลูกทุเรียน 3 ตำบล ได้แก่ ต.ตระกาจ ต.ละลาย และต.ภูเงิน
         นายอำภอกันทรลักษ์กล่าวด้วยว่า เรื่องตลาดสำหรับทุเรียนศรีสะเกษไม่น่าห่วง เพราะผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ และเป็นทุเรียนที่แจ้งเกิดในตลาดได้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องห่วงคือคุณภาพทุเรียน ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมามีการตัดทุเรียนอ่อนขายเช่นกัน เพราะราคาทุเรียนปีนี้สูงถึง 140-150 บาท/กิโลกรัม เทียบกับ 70-80 บาท/กิโลกรัม ซึ่งทางจังหวัดใช้มาตรการขึ้นทะเบียนสวนทุเรียน และใช้ฉลาก QR Code เพื่อตรวจดูสอบย้อนกลับว่าเป็นสวนของเกษตรกรรายใด และคืนเงินในกรณีที่ทุเรียนมีปัญหาคุณภาพ แต่จังหวัดเองไม่สามารถไปกำหนดคนขายจากพื้นที่อื่นได้
         "ทุเรียนที่นี่ขายดี หมดเร็ว จึงมีคนนำทุเรียนจากที่อื่นเข้ามาขาย ซึ่งควบคุมได้ลำบาก"

         นายสมเกียรติกล่าวด้วยว่า จังหวัดศรีสะเกษยังส่งเสริมสวนทุเรียนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เท่าที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลชัดเจน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปในสวน ทั้งชิมทั้งซื้อหรือจองลูกทุเรียน
         "อย่างบ้านตระกาจ มีรถเข้าสวนมากมายจนติดยาวถึง 2 กิโล เปรียบเทียบในอดีต ชาวสวนเราต้องขนทุเรียนไปขายแข่งกับที่อื่น แถมขายไม่ได้ราคาด้วย ตอนนี้ราคาขายที่สวนกิโลละ 150 บาท คนยังแห่เข้ามาซื้อ จนไม่พอขาย"
         ถ้าดูจากกระแสทุเรียนฟีเวอร์ ทั้งจากความต้องการบริโภคและความต้องการผลิตจากเกษตรกรแล้ว ศรีสะเกษกำลังก้าวไปสู่เมืองทุเรียนของภาคอีสานอย่างชัดเจน โดยมีดินภูเขาไฟสีแดงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นตัวชูโรง และมีแหล่งน้ำต้นทุนที่มั่นคงอย่างอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุงเป็นตัวหนุนหลัง เพราะทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอในช่วงติดผลจนเก็บเกี่ยว ไม่มีน้ำก็ไม่มีทุเรียน