ปักหมุด "คทช.ระบำ" ต้นแบบจัดการที่ดินทำกิน

         หลังการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการสร้างอาชีพให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลของ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ณ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2561 นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายประสานแผนงานอย่างบูรณาการโดยน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นหลักคิด รวมทั้งเตรียมทำแผนขับเคลื่อน 9 โมเดลนำร่องพื้นที่ คทช.บูรณาการแผนยุทธศาสตร์และงบประมาณร่วมกัน โดยสร้างกลไกการบริหารจัดการที่ดินทำกินด้วยกลไก 7 ภาคี ฟื้นป่า สร้างอาชีพ สร้างรายได้ คาดว่าจะเห็นผลภายใน 5 ธ.ค.นี้

         โครงการ คทช.ระบำ เป็นพื้นที่นำร่องการทำงานแบบบูรณาการเพื่อเป้าหมายชัดเจนในด้านแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ดินสงวนหวงห้ามของรัฐและปัญหาเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากใน จ.อุทัยธานี ในปี 2559 ได้จัดสรรที่ดินทำกินจากที่ดินแปลงว่างเนื้อที่ประมาณ 3,239 ไร่ จากที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เคยขอใช้ประโยชน์และหมดอายุสัญญาเช่าจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มาดำเนินการจัดที่ดินแปลงรวมให้สหกรณ์เป็นผู้เช่าที่ดินและจัดการบริหารที่ดินในรูปแบบกลุ่มเกษตรกรจึงมีการจดจัดตั้งสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ขึ้นเพื่อเช่าพื้นที่รายแปลงโดยได้รับการยกเว้นค่าเช่า 3 ปี ตอนนี้จัดแบ่งแปลงเป็น 8 ชุมชน จัดคนลงไปแล้ว 6 ชุมชน 355 แปลง เกษตรกรเข้าอยู่อาศัย 317 ราย ส่วนใหญ่ทำเกษตรเชิงเดี่ยว บางส่วนทำเกษตรผสมผสาน ปศุสัตว์และปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าจะมีอาชีพและรายได้ที่แน่นอน
         "หน่วยงานต่าง ๆ ได้เข้ามาสนับสนุนให้พื้นที่ คทช.ระบำ จนมีความคืบหน้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการจัดการระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำดื่ม น้ำใช้ โดยกรมชลประทาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ามาจัดระบบสหกรณ์ กรมพัฒนาที่ดินร่วมทำระบบพัฒนาดินและบ่อจิ๋วในไร่นา กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมหม่อนไหม ศูนย์วิจัยเข้าไปส่งเสริมอาชีพ เกษตรจังหวัดส่งเสริมเกษตรผสมผสาน อีกทั้งชาวบ้านที่นี่มีความเข้มแข็ง และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งตนจะลงมาติดตามผลในอีกสามเดือนข้างหน้า" รมช.เกษตรฯ กล่าว