กสส. พร้อมรับมือลำไยล้นตลาด ใช้กลไกสหกรณ์เร่งกระจายผลผลิต

         สถานการณ์ผลผลิตของลำไย ซึ่งปีนี้ลำไยภาคเหนือคาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตออกมาจำนวนมาก ขณะที่ตลาดหลักอย่างประเทศอินโดนีเซีย ที่เคยนำเข้าปีละประมาณ 90,000 ตัน ได้มีการห้ามนำลำไยสดจากประเทศไทย จึงหวั่นว่าจะทำให้ราคาลำไยปีนี้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
         ล่าสุด นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งให้เตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ปัญหาลำไยราคาตกต่ำ โดยสหกรณ์ที่รวบรวมลำไยสดใน  6 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 15 แห่ง ให้วางแผนในการรวบรวมลำไยสด และส่งกระจายผ่านช่องทางตลาดต่าง ๆ  ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะมีงบอุดหนุนให้สหกรณ์ระบายผลผลิต และสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สหกรณ์รวบรวมลำไยไว้แปรรูปเป็นลำไยอบแห้งเพื่อรอการจำหน่ายในฤดูกาลหน้า พร้อมดึงพ่อค้าที่ต้องการซื้อลำไยอบแห้งเข้ามา ซึ่งคาดว่าน่าจะทำตลาดได้ดีกว่าขายเป็นลำไยสด

         ทั้งนี้คาดว่าสหกรณ์จะรวบรวมผลผลิตลำไยแบบสดได้ราว 3,000 ตัน มูลค่า 90 ล้านบาท เพื่อทำตลาดลำไยสดช่อคุณภาพ ลูกสม่ำเสมอ ขณะนี้มีสหกรณ์ 7 แห่ง ใน 3 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ พะเยา เชียงใหม่ และน่าน ส่งเสริมให้สมาชิกผลิตลำไยคุณภาพอย่างต่อเนื่องและพยายามรักษาตลาดเดิมเอาไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคในประเทศได้รับประทานลำไยรสชาติดีมีคุณภาพ
         นอกจากนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จะเปิดรับออเดอร์จากผู้บริโภคปลายทาง แล้วแจ้งยอดการสั่งซื้อลำไยกับทางสหกรณ์  ซึ่งดูดซับลำไยบางส่วนออกมาจากพื้นที่ นำมาคัดเกรดเป็นลำไยสดช่อคุณภาพดี ขนาดไม่เกิน 80 ลูกต่อกิโลกรัม มีสัดส่วนขนาด AAA 70:30 ก้านช่อยาวไม่เกิน 6 นิ้ว และบรรจุลงตะกร้า ขนาด 10 กก. ตะกร้าขนาด 3 กก.และกล่องกระดาษขนาด 10 กก. ราคาขายจะเป็นราคารับซื้อจากเกษตรกรบวกค่าบริหารจัดการตามระยะทาง ที่กำหนดในเบื้องต้นราคาจำหน่ายลำไยคุณภาพสดช่อถึงมือผู้บริโภค 30-34 บาทต่อกิโลกรัม และจะมีการรับประกันสินค้าด้วย