"จันทบุรี7,8,9"ทุเรียนพันธุ์ใหม่มาตรฐาน"ชะนี-หมอนทอง"

 

 

      กรุงเทพ - ดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี สถาบันวิจัยพืชสวน ได้วิจัยทุเรียนพันธุ์ใหม่ จำนวน 3 พันธุ์ คือ จันทบุรี 7 จันทบุรี 8 และจันทบุรี 9 

      โดย ทุเรียนพันธุ์จันทบุรี 7 มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น เพียง 95 วัน หลังดอกบาน มีคุณภาพดีเด่นด้านรสชาติและคุณภาพในการรับประทานใกล้เคียงกับพันธุ์มาตรฐานที่เป็นการค้าปัจจุบัน เช่น ชะนีและหมอนทอง มีเนื้อละเอียด สีเนื้อสีเหลืองเข้ม เหนียว รสชาติหวาน มัน อร่อยและกลิ่นอ่อน ทรงผลกลมรี ก้านผลยาว 5.8 เซนติเมตร ความหนาเปลือก 1.6 เซนติเมตร ความหนาเนื้อ 0.9 เซนติเมตร พื้นที่แนะนำให้ปลูกในภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ตราด และระยอง เป็นต้น

      พันธุ์จันทบุรี 8 มีอายุเก็บเกี่ยวปานกลาง เฉลี่ย 114 วันหลังดอกบาน มีคุณภาพดีเด่นด้านรสชาติและคุณภาพในการรับประทานใกล้เคียงกับพันธุ์มาตรฐานที่เป็นพันธุ์การค้าในปัจจุบัน เช่น ชะนีและหมอนทอง มีเนื้อละเอียด สีเนื้อมีสีเหลือง เหนียว รสชาติหวานมันดีมาก และมีกลิ่นอ่อน น้ำหนักเฉลี่ย 2.45 กิโลกรัม ความยาวผล 21 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผล 16.67 เซนติเมตร ความยาวเส้นรอบวงผล 58.66 เซนติเมตร พื้นที่แนะนำให้ปลูกในเขตปลูกทุเรียนภาคตะวันออก เช่น จังหวัดจันทบรี ตราดและระยอง เป็นต้น และ

       พันธุ์จันทบุรี 9 มีอายุการเก็บเกี่ยวค่อนข้างยาว เฉลี่ย 138 วันหลังดอกบาน มีคุณภาพดีเด่นด้านรสชาติ คุณภาพในการรับประทานใกล้เคียงหรือดีกว่าพันธุ์มาตรฐานที่เป็นพันธุ์การค้าในปัจจุบัน เช่น ชะนีและหมอนทอง มีเนื้อละเอียด เหนียว รสชาติดี หวาน มัน อร่อยและมีกลิ่นอ่อน ทรงผลค่อนข้างกลมรูปไข่ น้ำหนักผล 3.43 กิโลกรัม เปลือกหนา 1.59 เซนติเมตร ความหนาเนื้อ 1.30 เซนติเมตร มีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อต่อน้ำหนักผลประมาณ 19.01 เปอร์เซ็นต์ และมีเมล็ดลีบ

       อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวสรุปว่า ทุเรียนทั้ง 3 พันธุ์นี้ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธ์ซึ่งมีอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นประธาน เป็นพันธุ์แนะนำเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 เพื่อเป็นทุเรียนพันธุ์ทางเลือกให้กับเกษตรกรนำไปปลูกสร้างรายได้ให้กับครอบครัว มีทั้งอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ปานกลางและยาวกว่าพันธุ์มาตรฐาน ทั้งนี้ ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดจะออกทั้งก่อน ระหว่าง และหลังพันธุ์มาตรฐานเพื่อลดปัญหาผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกัน ซึ่งมากเกินความต้องการของตลาด เป็นสาเหตุให้ราคาทุเรียนราคาถูกและที่สำคัญเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ด้วย