ลดรายจ่าย727บาท/เดือน-เงินออม180บาท/เดือน-ร้อยละ9ชำระหนี้ได้เพิ่มขึ้น

 

 

สศท.5 เผยผลการติดตามโครงการ 5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ถวายในหลวง เป็นผลสำเร็จ เกษตรกร 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง นำความรู้ไปใช้จริง สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน  พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องปี 61 หนุนเกษตรกร น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองอย่างเหมาะสม สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

        นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง ผลติดตาม โครงการ 5 ประสาน สืบสานเกษตรทฤษฎีใหม่ ถวายในหลวง ปี 2560 เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีความสมัครใจจาก 882 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 70,000 ราย  น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองอย่างเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ของเกษตรกรตามภูมิสังคมของแต่ละพื้นที่

 

 

        ในการนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา (สศท.5) ได้ติดตามผลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ (ข้อมูล ณ มกราคม 2561) พบว่า มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้ง 4 จังหวัด รวม 7,936 ราย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาร้อยละ 60 อายุเฉลี่ย 50-60 ปี สมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ยมี 4 คน เป็นแรงงานเกษตรส่วนใหญ่ ร้อยละ 60 อีกร้อยละ 40 อยู่นอกภาคเกษตร พื้นที่เข้าร่วมโครงการเฉลี่ย 5-7 ไร่ โดยร้อยละ 98 เป็นพื้นที่ของตนเอง

        ผลการติดตาม พบว่าเกษตรกรร้อยละ 87ได้รับปัจจัยผลิตครบตามต้องการหรือได้รับปัจจัยมากกว่า 3 อย่างขึ้นไป เช่น กิ่งพันธุ์ ไม้ผลไม้ยืนต้น 2-3 ต้น เมล็ดพันธุ์ผัก 4-5 ซอง ไก่ไข่ 5 ตัว ปลานิล/ตะเพียน 500-3,000 ตัว และท่อนพันธุ์หม่อน 50 ท่อน โดยเกษตรกรร้อยละ 90 มีพื้นที่ครบองค์ประกอบของการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ (นา-น้ำ-บ้าน-สวน) เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและมีการนำความรู้ไปใช้มีถึงร้อยละ 90

 

 

        โดยผลผลิตที่ได้ส่วนใหญ่ บริโภคเองร้อยละ 35 ขายในชุมชนร้อยละ 27 แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ร้อยละ 22 และเก็บไว้ทำพันธุ์ร้อยละ 16  ส่วนด้านรายจ่ายเกษตรกรร้อยละ 32 ที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดรายจ่ายลงได้ประมาณ 727 บาท/ครัวเรือน/เดือน หลังจากเข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่รายจ่ายลดลงในกิจกรรมพืชผักร้อยละ 52 กิจกรรมปศุสัตว์ร้อยละ 34 กิจกรรมไม้ผลไม้ยืนต้น ร้อยละ 7 กิจกรรมพืชไร่ ร้อยละ 6 และกิจกรรมประมงและอื่นๆ ร้อยละ 1 โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 32 สามารถออมเงินได้เพิ่มขึ้น 180 บาท/ครัวเรือน/เดือน และร้อยละ 9 มีความสามารถชำระหนี้ได้เพิ่มขึ้น  

 

 

        อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ ควรสนับสนุนงบประมาณให้แต่ละหน่วยงานอย่างเหมาะสม กำหนดหลักสูตรอบรมเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง/เกษตรทฤษฎีใหม่ให้กับผู้มีส่วนได้เสีย สนับสนุนปัจจัยการผลิตอย่างพอเพียง ครบถ้วน ตรงกับความต้องการของเกษตรกร พร้อมทั้งกระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญของการทำบัญชีครัวเรือน มีการคัดสรรปราชญ์เกษตรกรที่เป็นเกษตรกรต้นแบบที่มีความตั้งใจทำโครงการอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ในปี 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเป้าหมายส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีความสมัครใจจากพื้นที่ทั่วประเทศ เพิ่มเป็น 140,000 ราย ซึ่งเป็นเกษตรกรรายเดิมของปี 2560 จำนวน 70,000 ราย และของปี 2561 จำนวน 70,000 ราย โดย สศก.ได้ร่วมติดตามผลการดำเนินโครงการเป็นระยะต่อไป