นาแปลงใหญ่ปี60 บทสรุป!"ลดต้นทุน-รายได้เพิ่ม-เกษตรกรเข้มแข็ง"

 

 

สศก.ติดตามผลโครงการนาแปลงใหญ่หลักเกณฑ์ใหม่ ปี 2560 เกษตรกรยิ้มรับ ได้รับปัจจัยการผลิต องค์ความรู้ เทคโนโลยีมาปรับใช้ ช่วยลดต้นทุน ผลผลิตดี สร้างรายได้เพิ่ม เกิดความสามัคคี-เข้มแข็ง ในการรวมกลุ่มได้เป็นอย่างดี

        นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลประเมินโครงการนาแปลงใหญ่หลักเกณฑ์ใหม่ ของปี 2560 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มบริหารจัดการเมล็ดพันธุ์รวมกัน ผลิตข้าวคุณภาพได้มาตรฐานข้าวไทย ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ภายใต้การบูรณาการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยปี 2560 มีพื้นที่ที่ดำเนินการในระบบนาแปลงใหญ่ รวม 51 จังหวัด จำนวน 747 แปลง พื้นที่ 752,659 ไร่ เกษตรกร 55,087 ราย โดย สศก.ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งประธานกลุ่ม ผู้จัดการแปลง ใน 15 จังหวัด จำนวน 585 ตัวอย่าง ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2560 โดยสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้ ด้านค่าใช้จ่าย เกษตรกร ร้อยละ 84 สามารถลดค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิตในการทำนา โดยลดลง 512 บาทต่อไร่ หรือลดลงร้อยละ 15 (ค่าใช้จ่าย 3,359 บาทต่อไร่ ในปี 2559/60 ลดเหลือ 2,847 บาทต่อไร่ ในปี 2560/61) ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นค่าพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และการใช้สารเคมีน้อยลง,ด้านผลผลิต เกษตรกรร้อยละ 78 มีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 12 กิโลกรัมต่อไร่ หรือร้อยละ 2 (ผลผลิตประมาณ 631 กิโลกรัมต่อไร่ ในปี 2559/60 เพิ่มเป็น 643 กิโลกรัมต่อไร่ ในปี 2560/61) ขณะเดียวกันผลผลิตที่ได้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นด้วย โดยเกษตรกรร้อยละ 53 ผลิตข้าวได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะเดินหน้าสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าสู่การรับรองมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่ม เพื่อทำข้อตกลงซื้อขายกับเอกชน (MOU) จำนวน 221 แปลง ส่งผลให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตสูงกว่าราคาในท้องตลาด 100-200 บาทต่อตัน, ด้านผลตอบแทนสุทธิ เกษตรกรมีผลตอบแทนสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 533 บาทต่อไร่ หรือร้อยละ 35.89 (ผลตอบแทนสุทธิ 1,485 บาทต่อไร่ ในปี 2559/60 เพิ่มเป็น 2,018 บาทต่อไร่ ในปี 2560/61)  และจากการสนับสนุนปัจจัยและเทคโนโลยีมาใช้ พบว่า เกษตรกรร้อยละ 73 มีความพึงพอใจในระดับมาก เนื่องจากได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ มีการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ มาปรับใช้ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และสามารถสร้างความสามัคคีความเข้มแข็งในการรวมกลุ่มนาแปลงใหญ่ได้เป็นอย่างดี

 

 

        ทั้งนี้ การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าว ได้สนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรกลุ่มนาแปลงใหญ่ที่เป็นสมาชิกไปใช้และบริหารจัดการร่วมกัน ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ข้าว กระสอบบรรจุภัณฑ์ เครื่องหยอดข้าวแห้งติดรถไถเดินตามชนิดใบผ่านร่อง เครื่องหยอดข้าวแห้งติดรถแทรคเตอร์เครื่องหยอดข้าวรุ่นดัดแปลงสำหรับนาน้ำตม เครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งมีการถ่ายทอดความรู้ด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ และการผลิตข้าวคุณภาพดี (GAP) ตามกระบวนการโรงเรียนเกษตร

        สำหรับในปี 2561 กระทรวงเกษตรฯจะดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรเห็นถึงผลประโยชน์ที่ได้รับ มีรายได้ที่มั่นคง ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้มีการเชื่อมโยงโดยใช้ตลาดนำการผลิต ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มแปลงใหญ่มีการบริหารจัดการด้วยเกษตรกรเอง สามารถเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรได้ในระยะต่อไป และเป็นกลุ่มนาแปลงใหญ่ที่ยั่งยืนในระยะยาว