นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสำนักงานที่ดิน 460 แห่งทั่วประเทศ มีงานค้างอยู่ 160,000 กว่าเรื่อง ซึ่งได้มีการปรับแก้ไขระบบการจัดการทำงานใหม่ รวมถึงการนัดรังวัดด้วย จากเดิมที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเคลียร์งาน 227 วัน เหลือ 42 วัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 45-50 วัน แต่ในปี 2561 จะลดระยะเวลาให้เหลือไม่เกิน 30 วัน เนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาระบบรังวัดขึ้นมาใหม่ รวมถึงข้อมูลสารสนเทศ ที่นำระบบไอทีเข้ามาช่วยให้งานเร็วขึ้น รวมไปถึงการปรับกฎระเบียบ กฎกระทรวง ที่จะต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน

         สำหรับการออกโฉนดรุ่นใหม่อัตราส่วน 1 ต่อ 4,000 จะมีการกำหนดพิกัดดาวเทียมควบคู่กับหมายเลขหมุดที่ดินตามแนวแปลงที่ดินซึ่งมีความคลาดเคลื่อนน้อยมากเพียงไม่เกิน 1 ซม. ช่วยลดความยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายในการทำนิติกรรม ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 18 จังหวัด และปี 2561 จะเพิ่มอีก 20 จังหวัด หากมีสถานีดาวเทียมครบหมดก็จะประกาศใช้ทั่วประเทศ โดยขณะนี้มีจำนวนโฉนดที่ดินทั่วประเทศประมาณ 33 ล้านแปลง และที่ยังเป็น นส.3 และ นส.3 ก อีกประมาณ 5 ล้านแปลง
         นายประทีป กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมกรมที่ดินได้มีการนำเสนอแผน 10 ปี เพื่อยกระดับการออกโฉนดที่ดินให้ครบทั้ง 33 ล้านแปลง จาก 500,000 รายทั่วประเทศ ใช้งบประมาณปีละ 5,000 ล้านบาท โดยเริ่มจากปี 2562 ทั้งนี้ได้เชื่อมโยงกับกรมพัฒนาธุรกิจกับกระทรวงพาณิชย์ เริ่มใช้เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วตั้งแต่เดือน พ.ค.2560 โดยจะพยายามออนไลน์ข้อมูลให้ได้ทั้งหมดต่อไป