เผยราคายางสูงขึ้นหลัง 3 ประเทศจับมือลดส่งออก

         ความคืบหน้าการดำเนินมาตรการควบคุมการส่งออกยาง (เออีทีเอส) ซึ่งไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ร่วมกันลดการส่งออกยางพารารวม 350,000 ตัน ในระยะ 3 เดือน ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค.2561 ล่าสุด นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดผยว่า ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ลดการส่งออกรวมกว่า 115,600 ตัน แบ่งเป็นไทย 77,000 ตัน อินโดนีเซีย 32,000 ตัน และมาเลเซีย 66,000 ตัน ส่งผลให้ราคายางในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1.4 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็น 1.55 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ส่วนราคายางในประเทศไทยก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากช่วงต้นเดือน ม.ค.61 อยู่ที่ 44-45 บาทต่อกิโลกรัม แต่วันนี้เพิ่มเป็น 47.15 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งในช่วงปลายเดือน ก.พ.จะมีการประชุมสรุปตัวเลขผลดำเนินงานของแต่ละประเทศอีกครั้งว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
         อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการลดปริมาณส่งออกยางพารา ไม่มีผลต่อรายได้ของประเทศ กลับจะทำให้ราคายางเพิ่มขึ้น จากเดิม 3 เดือนไทยส่งออกยางเฉลี่ย 900,000 ตัน รายได้ 45,000 ล้านบาท ส่งออกลดลงเหลือ 660,000 ตัน และด้วยราคาต่อกิโลกรัมที่สูงขึ้นตามเป้าหมายกิโลกรัมละ 60 บาท รายได้จากการส่งออก 42,000 ล้านบาท จะพบว่ามูลค่าที่ได้ไม่แตกต่างจากรายได้เดิมปีที่ผ่านมา ซึ่งต่อไปหากเวียดนามเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกด้วย จะส่งผลให้สัดส่วนการส่งออกยางโลกของ 4 ประเทศรวมกันเพิ่มจากเดิม 3 ประเทศร้อยละ 70 เป็นร้อยละ 80 ทำให้อำนาจต่อรองในตลาดโลกมากขึ้น