"ลักษณ์" ยังหวังไทยเป็น "ซีด ฮับ" ยอมรับปัจจุบันมีการแข่งขันสูง

         "ลักษณ์" ชี้ปัจจุบันการแข่งขันผลิตเมล็ดพันธุ์ธัญพืชขายมากยิ่งขึ้น กระทรวงเกษตรฯพร้อมจะทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ หวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์และจำหน่ายไปต่างประเทศให้ได้
         นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์วิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชพิษณุโลก และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 ณ ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์รองรับประชาคมอาเซียน (Seed Hub) โดยมีหน่วยงานร่วมขับเคลื่อน ทั้งหมด 12 หน่วยงาน และได้กำหนดแผนแม่บทขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพการส่งออกเมล็ดพันธุ์ไทย เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ ต่อยอดความมั่นคงและความยั่งยืนของเมล็ดพันธุ์ไทยในภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน : เมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และผัก) อีกทั้งให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีอย่างเพียงพอ (ข้าวและพืชไร่ตระกูลถั่ว) ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้มีแผนการผลิตพันธุ์พืช/ปัจจัยการผลิต ในปี 2561 ได้แก่ 1. พืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน 14 ชนิดพืช 2. พืชสวน 67 ชนิด และ 3. ปัจจัยการผลิต
         อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตรได้กระจายเมล็ดพันธุ์ดีสู่เครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ชั้นจำหน่าย ปี 2560/61 ให้แก่กรมส่งเสริมการเกษตร ในโครงการพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในโครงการส่งเสริมการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ดี กรมการข้าว ในโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ รวมถึงได้กระจายสู่ภาคเอกชนและเกษตรกรด้วย


         สำหรับการดำเนินงานของศูนย์วิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชพิษณุโลก มีภารกิจในการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเมล็ดพันธุ์ บริหารการผลิตเมล็ดพันธุ์ โดยประสานและผลิตเมล็ดพันธุ์ชั้นพันธุ์ขยายในพื้นที่เกษตรกรและกระจายเมล็ดพันธุ์ไปยังเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ ให้บริการตรวจสอบเพื่อรับรองคุณภาพเมล็ดพันธุ์ และสุขอนามัยพืชของเมล็ดพันธุ์พืช และฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเมล็ดพันธุ์
         นายลักษณ์ เผยอีกว่า แนวทางการเป็นศูนย์กลางผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศมีความเชื่อมั่น อยู่ที่คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ซึ่งศูนย์วิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชพิษณุโลก กรมวิชาการเกษตร มีห้องปฏิบัติการของ seed lab ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจาก ISTA ซึ่งเป็นจุดที่มีความสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่สาธารณชนและภาคเอกชนที่มีขีดความสามารถในเรื่องของการผลิตเมล็ดพันธุ์ ที่สามารถมาใช้บริการได้ และถ้าได้รับการตรวจรับรองจาก seed lab ของกรมวิชาการเกษตร ก็จะเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศได้
         "เมื่อเรามี seed lab ที่มีความทันสมัย เราควรมอบโอกาสให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เป็นผู้ผลิตและมีการรวมตัวกันเป็นสหกรณ์การเกษตร ซึ่งจะสามารถยกระดับได้ภายใต้การแนะนำจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ให้สามารถที่จะเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์จำหน่ายได้ ถือเป็นแนวโน้มที่สำคัญ เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันในเรื่องการผลิตธัญพืชขายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่กรมวิชาการเกษตรให้ความสำคัญในเรื่องการผลิตเมล็ดพันธุ์ ก็จะได้ทั้งในเรื่องการสร้างขีดความสามารถใหม่ ได้เมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของตลาด ในขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมจะทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ ทำให้ส่งออกเมล็ดพันธุ์ในชั้นขยายไปจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ได้ เป็นแนวโน้มที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์และจำหน่ายไปต่างประเทศได้ ทั้งนี้ จะนำเรียนรัฐมนตรีว่ากานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกรมวิชาการเกษตรที่จะทำให้การผลิตเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้า และมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้นต่อไป" นายลักษณ์ กล่าว