ปี61เล็งขยายเพิ่ม5,000ล้านบาท ปล่อยกู้ล้างหนี้นอกระบบ

 

 

รัฐเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เล็งจัดอีก 5,000 ล้านบาท ล้างหนี้ พร้อมส่งหมอหนี้ลงประกบชาวบ้านฟื้นฟูอาชีพ ขยายการช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐในรูปสินเชื่อด้านการเกษตรจาก ธ.ก.ส. และสินเชื่อแฟรนไชส์โดย ธ.ออมสิน 

      นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเดินทางไปมอบนโยบาย แนวทางแก้ปัญหาหนี้นอกระบบผู้มีรายได้น้อย จ.พิษณุโลก ว่า การช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 จะแตกต่างจากรอบแรก โดยเตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญหรือหมอหนี้จากหลายหน่วยงานลงพื้นที่สอบถามความต้องการให้ช่วยแก้ปัญหา ทั้งจัดหางาน ฝึกอบรมอาชีพ ใช้หัวขบวนด้านเกษตรของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขณะที่ธนาคารออมสินพร้อมปล่อยกู้ทำแฟรนไชส์ เป็นผู้ประกอบการ โดยดึงรายย่อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี 4-5 ล้านคนมาช่วยดูแล 

 

 

      พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลยังเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อปลดภาระให้กับชาวบ้านผ่านคณะเจรจาระดับจังหวัด ทั้งกระทรวงการคลัง อัยการ กรมสรรพากร แบงก์รัฐ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้เงื่อนไขผ่อนปรนกว่าร้อยละ 10 ต่อปี ทั้งติดต่อกับพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งได้รับใบอนุญาต 234 ราย และนาโนไฟแนนซ์คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี ส่วนการปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินทั้งธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. หากวงเงินที่เตรียมไว้ 10,000 ล้านบาทไม่พอ พร้อมขยายวงเงินเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะชดเชยภาระดอกเบี้ยและยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)   

      นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า รัฐบาลมอบหมายให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบช่วงที่ผ่านมาวงเงิน 10,000 ล้านบาท ถึงสิ้นปีนี้คาดจะปล่อยสินเชื่อให้กับรายย่อย 4,200 ล้านบาท ราว 100,000 ราย จากวงเงินเป้าหมาย 5,000 ล้านบาท โดยปล่อยกู้ 50,000 บาท/ราย จึงเตรียมเสนอกระทรวงการ คลังพิจารณาวงเงินเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท ร่วมกับ ธ.ก.ส. เพื่อปล่อยสินเชื่อหนี้นอกระบบปี 2561 ต่อเนื่องจากปี 2560 อีกทั้ง ธนาคารออมสินยังเตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าชำระหนี้ต่อเนื่องไม่เป็นหนี้เสียในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ สำหรับเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อรายสำหรับบุคคลธรรมดา ด้วยการคืนเงินให้กับลูกค้าร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่จัดเก็บจากลูกค้า

 

      เช่น ธนาคารออมสินจัดเก็บดอกเบี้ยจากยอดเงินกู้มาได้ 10,000 บาท จะส่งกลับคืนให้ 3,000 บาท ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย 200,000 ราย ใช้เงินมอบของขวัญคืนครั้งนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท รวมทั้งยังมีโครงการดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อส่งเสริมการฝากเงินจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี จากเดิมจ่ายร้อยละ 1 เมื่อฝากเงินระยะยาวต่อเนื่อง 5 ปี ฝากตั้งแต่ 100-1,000 บาทต่อเดือน ยอดเงินไม่เกิน 60,000 บาทต่อราย ตลอดจนการมุ่งช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านสินเชื่อสตรีทฟู้ด สินเชื่อแฟรนไชส์ วงเงิน 50,000 บาทต่อราย งดคิดดอกเบี้ยปีแรก เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพให้รายย่อย หลังจากกระทรวงการคลังเห็นชอบหลักการแนวทางดังกล่าว.