เกษตรกร6.1พันร่วมเคลื่อน"โคบาลบูรพา"

 

 

ก.เกษตรฯ ย้ำ “‘โคบาลบูรพา” จ.สระแก้ว สร้างอาชีพมั่นคงเกษตรกรได้จริง ทุกขั้นตอนดำเนินการรัดกุม คิกออฟโครงการฯ 24 พ.ย.นี้

         นายสรวิศ ธานีโต โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า “โคบาลบูรพา” โครงการส่งเสริมการเกษตรรูปแบบแปลงใหญ่ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตอบโจทย์นโยบายการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญของรัฐบาล นำโดย พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร อย่างโครงการ “โคบาลบูรพา” ที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงโค-แพะ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่เน้นประสานความร่วมมือกับเกษตรกรและรวมกันเป็นกลุ่มเกษตรกรสร้างความเข้มแข็งร่วมสร้างอาชีพใหม่ที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

         ด้าน นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยถึงความคืบหน้าของโครงการฯว่า ขณะนี้คณะกรรมการได้คัดกรองเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ 6,100 คน ตามเป้าหมายแล้ว และมีการอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจ กับเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ให้มีความรู้ ความสามารถในการเลี้ยงโคอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

        โดยกรมปศุสัตว์ได้ส่งมอบพันธุ์สัตว์ ให้เกษตรกรแล้ว 163 ราย จำนวนโค 1,075 ตัว เป็นเกษตรกรในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ 126 ราย จำนวนโค 630 ตัว อ.วัฒนานคร 37 ราย จำนวนโค 185 ตัว และได้ส่งมอบโคให้เกษตรกรในพื้นที่วัฒนานครเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา อีก 260 ตัว ด้านการปลูกพืชอาหารสัตว์มีเกษตรกรจำนวน 2,000 ราย ได้ปลูกพืชอาหารสัตว์ จำนวน 10,000 ไร่ และสร้างโรงเรือนแล้ว 2,000 หลัง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ

         สำหรับการจัดหาพันธุ์สัตว์ ดำเนินการโดยวิธีการประกวดราคา แล้ว 2 ครั้ง เป็นโคจำนวน รวม 30,000 ตัว ในขั้นตอนการเตรียมพันธุ์สัตว์ให้เกษตรกร โคที่เข้าร่วมโครงการฯ ทุกตัว จะผ่านการจัดทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ ถ่ายพยาธิ เจาะเลือด ตรวจโรค ฉีดวัคซีน พ่นยาฆ่าเชื้อ และกักโรคต้นทาง ณ สถานที่ที่กรมปศุสัตว์กำหนด อย่างน้อย 21 วัน โดยดำเนินการตามหลักวิชาการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายสัตว์ไปยังคอกพักสัตว์ปลายทาง ในพื้นที่ที่กรมปศุสัตว์กำหนด เพื่อการกักสัตว์อาการ มีการพ่นยาฆ่าเชื้อ และมีคณะกรรมการตรวจสอบ ตรวจรับ ตามรายละเอียดคุณลักษณะ ทั้งนี้ การส่งมอบพันธุ์สัตว์ให้เกษตรกรในพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์และผู้ประกอบการที่รับผิดชอบ จะขนส่งโคให้เกษตรกรถึงโรงเรือน รายละ 5 ตัว

 

 

         คุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกเกษตรกรร่วมโครงการฯ คือ เกษตรกรจะต้องมีที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการมาตั้งแต่ปี 2557-2560 และมีพื้นที่ปลูกพืชอาหารสัตว์ 5 ไร่ต่อราย หลังผ่านเกณฑ์คัดเลือกและอบรมเรียบร้อยแล้ว เกษตรกรจะได้รับเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ใช้ก่อสร้างโรงเรือนรายละ 58,000 บาท และเกษตรกรผู้เลี้ยงโค ต้องทำสัญญากู้ยืมโคเนื้อเพศเมียลูกผสมพื้นเมืองรายละ 5 ตัว ไปเลี้ยงจนได้ลูกและส่งคืนลูกโคเพศเมียอายุ 12 เดือน ให้โครงการ 5 ตัว เพื่อนำไปให้เกษตรกรรายใหม่ยืมไปเลี้ยงต่อ เกษตรกรที่ทำสัญญากู้ยืมโคจึงได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของโครุ่นแรกเต็มรูปแบบ ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะก็เช่นกัน เกษตรกรที่ร่วมโครงการแต่ละรายจะได้รับฝูงแพะเพศเมีย 30 ตัว เพศผู้ 2 ตัว และต้องส่งลูกแพะเพศเมียอายุ 6 เดือน จำนวน 32 ตัว คืนให้โครงการ จึงได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของฝูงแพะที่ได้ยืมไปอย่างถาวร

         ทั้งนี้ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯจะลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่โรงเรียนซับนกแก้ววิทยา เพื่อคิกออฟหรือเริ่มต้นโครงการบูรพาอย่างเป็นทางการ