หวั่นป่าสักฯน้ำล้น! กรมชลฯเร่งระบาย

 

 

       เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำสูงถึงร้อยละ 90 ของความจุ กรมชลฯ เร่งเพิ่มการระบายน้ำ เกรงน้ำเต็มเขื่อนภายใน 1 สัปดาห์นี้ หากฝนยังตกชุก

        นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้ระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เพิ่มจากวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะขณะนี้น้ำในเขื่อนมีมากถึงร้อยละ 90 และรับน้ำได้เพียง 96 ล้านลูกบาศก์เมตร หากน้ำไหลเข้าเขื่อนยังมีปริมาณมาก และหากไม่ปรับปริมาณการระบายให้สมดุล เกรงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์น้ำจะเต็มภายใน 1 สัปดาห์ หากฝนยังตกชุก

 

 

        ส่วนวันที่ 15 ตุลาคม นี้ที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า จะมีฝนตกชุก จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลจาก จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นตามลำดับ และคาดว่าจะมากถึง 3,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในอีก 5 วันข้างหน้า กรมชลประทานได้ทดน้ำหน้าเขื่อนให้สูงขึ้น เพื่อผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อน และต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนในวันที่ 12 ตุลาคม และคงอัตราไว้  1 สัปดาห์ ซึ่งหากไม่มีฝนตกเพิ่ม จึงจะลดตามลำดับ  เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

 

       สำหรับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและสะแกกรังที่ไหลมารวมกันที่ จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำเพิ่มจากเมื่อวาน ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนจาก 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 2,188 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมบ้านกว่า 400 หลังริมตลิ่ง ชาวบ้าน ต.ตลุก เร่งเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำ

       เช่นเดียวกับที่ จ.อ่างทอง บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอป่าโมกหลังเก่า น้ำได้ทะลุพนังกั้นน้ำและพื้นเขื่อนเรียงหินกว่า 10 จุด ชาวบ้านหวั่นว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงกว่าตลิ่ง จะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บ้านพักข้าราชการ จึงต้องเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง