เตือน4จังหวัด!ลุ่มเจ้าพระยารับน้ำหลาก

 

 

กรมชลฯ สั่งปิดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล กักน้ำจากแม่ปิงที่จะไหลลงมาสู่พื้นที่ตอนล่าง ช่วยลดผลกระทบภาวะระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะสูงขึ้น

        นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน รักษาราชการแทนอธิบดีฯกล่าวว่า ได้ประสานงานไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ปิดการระบายน้ำท้ายเขื่อนภูมิพลจังหวัดตาก เนื่องจากพิจารณาว่า น้ำแม่น้ำวังมีปริมาณมาก เมื่อไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิงท้ายเขื่อนจะทำให้แม่น้ำปิงที่จังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์มีปริมาณสูง จึงปิดการระบายน้ำปิงจากท้ายเขื่อน 2 วัน ซึ่งมั่นใจว่า จะลดปริมาณน้ำที่ไหลมายังเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาทได้

        “ได้ทำหนังสือเรียนอธิบดีป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อแจ้งแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและ ปภ. จังหวัดแล้วถึงสถานการณ์น้ำที่คาดว่า จะมีฝนตกชุกในภาคกลางจนถึงวันที่ 11 ต.ค.น้ำเหนือจะหลากจึงขอให้เตือนภัยเพิ่มความระมัดระวังเรื่องน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น”นายสมเกียรติกล่าว

 

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์

         นายสมเกียรติ ประเมินว่า ฝนตกชุกในภาคกลางจนถึงวันที่ 11 ต.ค. น้ำเหนือจะหลากจึมาถึงเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,000-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยได้ทดน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อนแล้วในอัตรา500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจากศักยภาพทั้งหมด 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่มากน้ำจึงเต็มความจุ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจาก 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรวินาทีภายใน 3 วันนับจากเมื่อวานนี้ และจะคงอัตรานี้ไว้ 1 สัปดาห์ โดยคาดว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร 

 

 

         จึงเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งใน จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยาซึ่งประสบภาวะน้ำท่วมขังมานานเตรียมรับสถานการณ์ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำของคลองโผงเผง อ่างทอง คลองบางบาล อำเภอบางบาล เสนา และแม่น้ำน้อย อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา