จัด500ล้าน!ช่วยเอสเอ็มอี

 

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อหาทางลดผลกระทบให้กับผู้ส่งออกจากเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และการบ่มเพาะเอสเอ็มอีให้เข้มแข็ง ผ่านกองทุนส่งเสริมเอสเอ็มอีในการปรับปรุงเครื่องมือเครื่องจักรใหม่ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณปี 2561 ผ่านสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วงเงิน 1,007 ล้านบาท

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

 

          นายอุตตม สาวนายน รัฐมตรีว่าการกระทรวงอุตสหากรรม กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความรู้ให้กับเอสเอ็มอีในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน วงเงิน 500 ล้านบาท เฟสแรกนำร่อง 150  ล้านบาท มอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) สมาคมธนาคารไทย ตระเวณจัดสัมมนาทั่วประเทศ เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อแจกคูปองให้เอสเอ็มอีผู้เข้าอบรม 30,000 บาทต่อราย เพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมในการประกันความเสี่ยงจากสถาบันการเงิน เนื่องจากเห็นว่าเอสเอ็มอีต้องมีต้นทุนสูงในการป้องกันความเสี่ยง จึงกำหนดระยะเวลาการใช้คูปองในช่วง 11 เดือน ครบกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน 2561

 

 

         นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งระบบ 3 ล้านราย เป็นเอสเอ็มอีมีศักยภาพส่งออกและนำเข้าสินค้าเพียง 20,000 ราย จึงกำหนดเป้าหมายให้ความรู้กับเอสเอ็มอีเฟสแรก 5,000 ราย โดยเน้นช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทเป็นอันดับแรก ยอมรับว่าเอสเอ็ม อีรายย่อยไม่ถึงร้อยละ 20 เห็นความสำคัญในการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เมื่อเงินบาทแข็งค่าและผันผวนต่อเนื่อง โดยไทยแข็งค่าถึงร้อยละ 7.4 สูงสุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน จึงเริ่มเห็นถึงความสำคัญจากค่าเงินบาท การจัดสัมมนาครั้งแรกเตรียมเชิญเอสเอ็มอีรายย่อยนับพันรายมาให้ความรู้เพิ่มเติม